
คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายตัวจากบ้านในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบเป็นศพเปลือย อยู่ในป่าบนภูเหล็กไฟ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 63 กระทั่งวันที่ 2 มิ.ย.64 ตำรวจจับกุม นาย ไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ขณะจะเข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหมายจับฐานความผิด 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และ กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ทางด้าน ลุงพลแจ้งเอาผิดกับผบ.ตร.
ภายหลังศาลจังหวัดมุกดาหารอนุญาตให้ลุงพลได้ประกันตัวไปมี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นทนายความให้ ทางด้านนางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่ของน้องชมพู่ เตรียมเปิดตัวทีมทนายความในการต่อสู้คดีกับลุงพลเช่นกัน ลุงพล |
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่ห้องอาหารโรงแรมมุกดาวิว อ.เมืองมุกดาหาร นางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อของน้องชมพู่ พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ลุงพล
ร่วมแถลงเปิดตัวนายวินัย ชุมสวัสดิ์ ทนายความของครอบครัวของน้องชมพู่สู้คดีกับ ลุงพล โดยนายวินัยเป็นหัวหน้าทีมทนายความในการต่อสู้คดีน้องชมพู่ให้แม่และพ่อของน้อง ส่วนนายอัจฉริยะ เป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย นายอัจฉริยะกล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากพ่อและแม่ของน้องชมพู่ เป็นผู้จัดหาทนายความให้ นายวินัย ชุมสวัสดิ์ เป็นหัวหน้าทีมทนายความคดีนี้ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนรอส่งอัยการ หากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องจะทำหน้าที่เป็นโจทก์ร่วม แต่หากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องก็จะยื่นฟ้องเอง มีทนายความช่วยเหลืออีก 3 คน
แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตัว การทำงานของทีมทนายความแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 2 คนแรกเป็นทีมทนายความทำคดีของน้องชมพู่ และอีก 2 คนทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของพ่อและแม่น้องชมพู่ จะดำเนินคดีกับผู้ให้ร้ายหรือกล่าวหาพ่อและแม่ของน้องชมพู่ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะในคดีนี้และเชื่อมั่นในหลักฐานต่างๆของทีมตำรวจของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ยืนยันการสู้คดีไม่มีค่าใช้จ่าย ลุงพลล่าสุด
นายอัจฉริยะกล่าวต่อว่า ทำงานช่วยเหลือมามากกว่า 9 ปี คดีน้องชมพู่ตนลงพื้นที่มามากกว่า 7 เดือน เชื่อมั่นการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวนถือเป็นทีมพระกาฬ และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ขอฝากไปถึงทนายความของทางฝั่งลุงพลว่า ให้คิดถึงความผิดเพี้ยนของสังคมที่เห็นผู้ต้องหากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ ทั้งที่ตำรวจมีพยานหลักฐานเด็ดอยู่ในมือและมีผู้สูญเสียจากเหตุการณ์นี้ ลุงพลล่าสุด |
ส่วนเรื่องที่นายสิระ เจนจาคะ จะเดินทางมาหาแม่น้องชมพู่ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ตนในฐานะที่ดูแลครอบครัวของน้องชมพู่ อยากฝากขอบคุณนายสิระ แต่ขอไม่อนุญาตให้มาพบเพราะไม่อยากให้คดีนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง ขณะที่นายวินัย ชุมสวัสดิ์ หัวหน้าทีมทนาย ความของแม่น้องชมพู่ เผยว่า ไม่ได้กังวลใจอะไร แต่อยากจะชี้แจงเรื่องผู้ที่มาช่วยครอบครัวน้องชมพู่ เรื่องนี้ฮีโร่ที่แท้จริงคือตำรวจและผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์หลักฐานต่างๆ รวมถึงพนักงานอัยการที่รับเรื่องส่งฟ้อง

ส่วนตนเข้ามาให้กำลังใจและให้คำปรึกษาเรื่องข้อกฎหมาย ยืนยันเรื่องนี้ไม่ได้เป็นศึกการต่อสู้ระหว่างทนาย เพราะความจริงคือความสูญเสียของครอบครัวน้องชมพู่ ไม่ได้กังวลใจเรื่องการหาจุดอ่อนของหลักฐานต่างๆ เพราะเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจนและหลายอย่าง แต่ไม่สามารถเอาออกมาเปิดเผยได้และไม่มีวันเปิดเผยออกมา
ภายหลังการแถลงข่าว พ่อและแม่ของน้องชมพู่นำดอกไม้มอบให้กับทีมทนายความและนายอัจฉริยะเพื่อแสดงความขอบคุณ รู้สึกดีใจและโล่งอก เหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแบ่งเบาให้คลายทุกข์ ช่วงเช้าวัน เดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม พร้อมนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น เดินทางไปยังวัดท่ากระบือ ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เข้ากราบไหว้ปิดทองรูปหล่อองค์จำลองหลวงพ่อรุ่งขนาดเท่าองค์จริง ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าและใต้ฐานหลวงพ่อรุ่งองค์ใหญ่ พร้อมทั้งเคาะระฆังเสริมความเป็นสิริมงคล จากนั้นในช่วงบ่าย ทนายตั้มพา ลุงพลแจ้งเอาผิดกับผบ.ตร. เดินทางไปยังรัฐสภา ลุงพลป้าแต๋น
เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และเจ้าพนักงาน หลังไม่ยอมรับการมอบตัวของลุงพล พร้อมให้ตรวจสอบการส่งสำนวนคดี การยื่นคำร้องฝากขัง และการคัดค้านการประกันตัว ทั้งที่ลุงพลแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดหลบหนี ลุงพลป้าแต๋น |
นายสิระกล่าวว่า ลุงพลติดใจที่ศาลพิจารณาออกหมายจับ ยืนยันว่าตนจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี เบื้องต้นยังไม่รับเรื่องร้องเรียนไว้พิจารณา จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ในสัปดาห์หน้า ขึ้นอยู่กับว่าที่ประชุมจะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ย้ำว่าการดำเนินการต่างๆจะไม่ก้าวล่วงพยานหลักฐานและสำนวนคดีต่างๆ
นายสิระกล่าวว่า “ผมจับพฤติกรรมของ ผบ.ตร.เคยประกาศว่า จะจับผู้ร้ายให้ได้ภายใน 1 ปี และประจวบเหมาะว่าการออกหมายจับครั้งนี้ครบ 1 ปีพอดี ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความบังเอิญหรือมีการกดดันเจ้าหน้าที่หรือไม่ ในวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. ผมและ กมธ.จะลงพื้นที่บ้านกกกอก ไปพบกับแม่ของน้องชมพู่ และ พนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามว่าถูกกดดันในการทำคดีหรือไม่ ฝากถึงแม่น้องชมพู่ว่าอย่าให้ใครมาปิดช่องทาง และ โอกาสจะได้รับความช่วยเหลือด้านความยุติธรรม แต่มีคนมาเบรกว่าอย่าไป นายอัจฉริยะระบุว่า ต้องขออนุญาตก่อน ผมตกใจว่านายอัจฉริยะเป็นใคร ผมไม่ได้รู้จักไม่ได้ติดใจ แต่ต้องไปพบแม่น้องชมพู่เพราะรับปากลุงพลและแม่น้องชมพู่ว่าจะเข้ามาดูแลความยุติธรรม การมาปิดกั้นแบบนี้ขอให้พิจารณาตัวเองด้วย และให้สังคมช่วยพิจารณาว่าเป็นอย่างไร ยืนยันว่าการยื่นเรื่องร้องเรียนวันนี้ไม่เกี่ยวกับการกลบข่าวพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน หรือเรื่องการเมืองขออย่าเอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง” ลุงพลวันนี้
ด้านนายษิทรากล่าวว่า มายื่นเรื่องร้องเรียนเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจในการออกหมายจับ ยืนยันว่าลุงพลไม่มีพฤติกรรมหลบหนี แต่เจ้าพนักงานไปทำคำร้องออกหมายจับอ้างเหตุว่ามีพฤติกรรมหลบหนีทำให้ศาลหลงเชื่อและออกหมายจับ หลังออกหมายจับได้ไปมอบตัว แต่ ผบ.ตร.กลับไม่ยอมรับมอบตัว และทำบันทึกการจับกุมเพื่อให้ลุงพลได้รับความอับอาย มีผลต่อการคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาล ลุงพลวันนี้ |
ส่วนที่แม่ของน้องชมพู่บอกในศาลว่าที่ทำคำร้องทั้งหมดเพราะตำรวจแนะนำ ทำให้เห็นว่าตำรวจไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับลุงพล และเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อให้ลุงพลดูเป็นผู้ร้าย ต้องใช้กำลังตำรวจเข้าจับกุมล็อกกุญแจมือ ทั้งที่เข้ามอบตัวแล้ว ต้องมาขอความเป็นธรรมให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ผบ.ตร.และเจ้าพนักงานสอบสวน รวมถึงคนที่เข้าให้การในชั้นศาล
ขณะที่ลุงพลกล่าวว่า อยากให้ กมธ.กฎหมายฯ ทำงานรอบคอบตรงไปตรงมาเพื่อเป็นบรรทัดฐานให้ทุกคนได้รับความยุติธรรม ยืนยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าคนไทยทุกคนต้องการความยุติธรรมและความเสมอภาค ส่วนที่ประชาชนมองว่าเราเป็นคนร้ายไปแล้วนั้น ได้อ่านคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียแบบผ่านๆ เพราะทุกคนสามารถแสดงความเห็นได้ แต่ขอให้ยืนอยู่บนความถูกต้อง ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายสิระได้ให้ลุงพลสัญญากับประชาชนว่า ต้องยอมรับในดุลพินิจของศาล ลุงพล คานเรือเล็ก
โดยลุงพลกล่าวยืนยันว่า “จะเคารพการตัดสินของศาลและไม่มีทางที่จะหนีไปไหน” ภายหลังการแถลงข่าว ป้าแต๋นได้ยื่นผ้าทอมือของดีจาก จ.มุกดาหาร ให้ลุงพลนำไปผูกเอวนายสิระ ทั้งนี้ นายสิระพูดติดตลกว่า ของชิ้นนี้ราคาไม่เกิน 3,000 บาท ใช่หรือไม่ ลุงพล คานเรือเล็ก |